บ้านเย็นประหยัดพลังงาน

บ้านเย็นประหยัดพลังงาน

บ้านเย็นประหยัดพลังงาน ค่าไฟไม่บานด้วยการแก้ปัญหาตรงจุด

บ้านเย็นประหยัดพลังงาน ค่าไฟไม่บานด้วยการแก้ปัญหาตรงจุด ย่างก้าวเข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งพื้นที่ไหนมีปัญหา “บ้านร้อน” แทนที่บ้านจะเป็นพื้นที่สร้างความผ่อนคลาย ก็อาจทำให้สมาชิกภายใน บ้าน

บ้านเย็นประหยัดพลังงาน

หงุดหงิดอยู่ไม่ติด บ้านเดี่ยว แต่กลับต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศเปิดกันทั้งคืนทั้งวันให้ บ้าน เย็นฉ่ำ และคงต้องผวากับค่าไฟที่แพงขึ้น วันนี้มีแนวทางและนวัตกรรมดี ๆ ที่น่าสนใจในการปรับปรุงให้ “บ้านเย็น” ซึ่งทั้งประหยัดพลังงาน ประหยัดเงินค่าไฟ และรักษาสิ่งแวดล้อมมาแนะนำ วิลล่าภูเก็ต

ความร้อนในบ้านส่วนใหญ่มักมาจากแสงแดดที่ส่งผ่านมาทางหลังคาและฝ้าเพดาน ตลอดจนผนัง บ้าน การลดความร้อนให้บ้านอาจเริ่มด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างเช่นการติดตั้ง “ฉนวนกันความร้อน” ป้องกันความร้อนที่ส่งผ่าน เข้ามาในบ้าน รวมถึงช่วย

สะท้อนรังสีความร้อนออกไปด้วย ซึ่งการติดตั้ง ฉนวนบริเวณโถงหลังคา จะช่วยลดความร้อน ได้มากกว่าส่วนอื่น เพราะ ความร้อนกว่า 70% จะเข้าสู่ตัว บ้าน จากหลังคา

เดือนมีนา-เมษา หน้าร้อนเมืองไทย ช่วงนี้ อุณหภูมิพุ่งปรี๊ด ๆ วิลล่าภูเก็ต จนฉุดไม่อยู่ หันไปทางไหนก็มีแต่ความร้อนรายล้อมรอบกาย หลายคนจึงหันมาเปิดแอร์คอนดิชั่นเนอร์เพื่อลดอุณหภูมิรอบตัวให้เย็นลง

จนชักจะหวั่นๆ กับค่าไฟที่กำลังจะตามมาเรียกเก็บกันทีหลัง แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพราะเรามีเคล็ดลับในการทำบ้านให้เย็นลงด้วยวิธีง่ายๆ โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงาน อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

เคล็ดลับการปรับ เปลี่ยนบ้านร้อนให้กลายเป็นบ้านเย็น ยิ่งขึ้น ผ่านการเลือกใช้วัสดุ จำหน่ายขายบ้านภูเก็ต ก่อสร้างที่เหมาะสม และสร้างกระบวนการหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน เพื่อให้บ้านพร้อมรับมือ กับสภาพอุณหภูมิเมืองไทยที่ทวี

ความร้อนขึ้นทุกปี วัสดุก่อสร้างเปรียบเสมือนปราการด่านแรกก่อนที่ ความร้อนจะเข้าสู่ตัวบ้านเดี่ยว เพราะฉะนั้นเคล็ดลับอันดับแรก คือ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ถูกต้องและเหมาะสมกับอากาศในประเทศไทย  ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากของการลดอุณหภูมิและทำให้บ้านเย็นลง  วิลล่าภูเก็ต

โดยสิ่งแรกที่เป็นเกราะชั้นบนสุดของบ้าน คือ หลังคา ซึ่งเมื่อก่อนกระเบื้อง หลังคาที่สามารถสะท้อน ความร้อนได้ดีจะต้องเป็นกระเบื้องหลังคาสี อ่อนเท่านั้น Villas in Pasak แต่ในปัจจุบันเจ้า ของบ้านที่ชื่น ชอบหลังคาเฉดสีเข้ม ก็มีนวัตกรรม

กระเบื้องหลังคาเฉดสีเข้ม ที่สามารถสะท้อนความร้อนได้ดี ทำให้บ้านเย็นลง ช่วยให้สามารถ เลือกใช้กระเบื้อง หลังคาสีเข้มได้โดยไม่ ต้องกลัวบ้านร้อนอีกต่อไป เนื่องจากมีนวัตกรรมโมเลกุลเม็ด phuket villa for sale สีสูตรพิเศษ ที่ทำให้สามารถสะท้อน ความร้อนได้ดีแม้จะ เป็นกระเบื้องหลังคาสีเข้มก็ตาม

แต่หากต้องการตัวช่วยระบายภายในบ้าน เนื่องจากเจอปัญหาบ้านร้อนอบอ้าวอยู่ตลอดเวลา  การแก้ปัญหาที่ตรงจุดต้องใช้หลักการถ่ายเทอากาศที่เย็นกว่าจากภายนอก เพื่อระบายอากาศร้อนใน บ้าน ออกจากหลังคา ซึ่งแก้ปัญหาได้ด้วย การติดตั้งนวัตกรรมการระบายอากาศ “SCG Active AIRflow™ System” เกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต

นวัตกรรมที่ถูกคิคค้นมาเพื่อแก้ปัญหาบ้านอย่างตรงจุดและครบวงจร ที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยลืมปัญหาบ้านร้อนอบอ้าวไปได้เลย ตอบโจทย์ทั้งแนวคิดบ้านเย็นและบ้านประหยัดพลังงาน แถมยังช่วยลดการสะสมเชื้อโรคและความอับชื้น ลดความเสี่ยงของอาการภูมิแพ้อีกด้วย

หัวใจสำคัญของ “SCG Active AIRflow™ System” คือ การสร้างสภาวะอยู่สบายภายในบ้านผ่านการทำงานโดยระบบอัตโนมัติ จาก 3 อุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย ช่องเติมอากาศติดผนัง (Intake Air Grille),  ชุดระบายอากาศฝ้าเพดาน (Ceiling Ventilator หรือ CV) และ ชุดกระเบื้องระบายความร้อนในโถงหลังคา (Solar Roof Tile Ventilator หรือ SRTV)

การติดตั้งระบบหลังคา โซลาร์ เอสซีจี (SCG Solar Roof Solutions) นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการทำบ้านเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวที่มีการใช้ไฟฟ้าช่วงกลางวัน หาดทรายขาวรอบภูเก็ต วันเดียวก็เที่ยวได้

ซึ่งนอกจาก จะช่วย ประหยัดค่าไฟ ได้ถึง 60% แล้ว ยังอาจเป็นช่องทาง ในการ เพิ่มราย ได้อีกด้วย สามารถเช็ค ลิสต์ได้ง่าย ๆ เพื่อตรวจสอบ ว่าบ้าน เหมาะสำหรับ การติดตั้ง SCG Solar Roof หรือไม่ ดังนี้ Villas Phuket

  1. ใช้ไฟช่วงกลางวันมากกว่ากลางคืน
  2. ค่าไฟฟ้าต่อเดือนสูงกว่า 3,000 บาท

หากเช็คลิสต์ ผ่านทั้งสองข้อ ขั้นตอนถัดไปเป็นหน้าที่ ของทีมผู้เชี่ยวชาญ จากเอสซีจี ในการตรวจเช็ค สภาพหลังคา และโครงสร้างก่อนการออกแบบและติดตั้งอย่างละเอียด เพื่อประเมิน ความเหมาะสม มั่นใจใน ประสิทธิภาพตลอด อายุการใช้งาน เพื่อให้เหมาะสมกับ โครงสร้างหลังคา ส่งผลให้ เกิดประสิทธิภาพ การผลิตกระแสไฟฟ้า อย่างสูงสุด

บ้านเย็นประหยัดพลังงาน

การติดตั้งระบบหลังคา โซลาร์ เอสซีจี ไม่เพียงช่วยให้ประหยัดค่าไฟ แต่ยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่สามารถ นำพลังงานจากธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด  เพราะเหมาะกับ การผลิตไฟฟ้า เพื่อใช้ในตอนกลางวัน และ ใช้งานเองเป็นหลัก แต่หากมี ส่วนที่ใช้เหลือก็สามารถ ขายคืนได้ โดยการไฟฟ้าจะรับซื้อคืนที่ 2.20 บาท/หน่วย

แถมยังช่วยให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น  เนื่องจากสามารถ ดูยอดเงินที่ประหยัด ได้แบบเรียลไทม์ ผ่านแอปพลิเคชัน SCG Solar Solutions  เพื่อติดตามผลการผลิต ไฟฟ้าและแสดงผล เป็นยอดเงินได้แบบรายวัน รายเดือน และ รายปี เพื่อให้แน่ใจ ว่าระบบโซลาร์ทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าลงทุนครั้งเดียว แต่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้หลายอย่างเลยทีเดียว

เมื่อเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง ที่เหมาะสม เพื่อป้องกันความร้อน จากภายนอกของบ้านแล้ว อันดับต่อมาเจ้าของ บ้านควรใส่ใจถึง การเปิดเส้นทางหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน เพื่อระบายความร้อน โดยปกติบ้านทุกหลังจะ ต้องมีหน้าต่างเป็น ส่วนประกอบของบ้าน

ซึ่งหน้าที่หลักของหน้าต่าง คือ การช่วยระบายอากาศเข้า-ออกเพื่อ หมุนเวียนอากาศ ภายในบ้าน แต่เมื่อผู้อยู่อาศัยจำเป็นต้องปิดหน้าต่าง หรือ อยู่ในบ้านที่ มีหน้าต่างน้อย อาจทำให้อากาศไม่สามารถหมุนเวียน จึงทำให้บ้านร้อนอบอ้าวและรู้สึกไม่สบายตัว

เคล็ดลับทำให้ บ้านเย็นประหยัดพลังงาน

บ้านเย็นประหยัดพลังงาน

1.ทาสีโทนเย็น
วิธีที่ง่ายที่สุดในการลดความรู้สึกร้อนให้กับบ้าน ก็คือการทาสีห้องด้วยสีโทนเย็น อย่างสีเขียวหรือสีฟ้า ซึ่งจะทำให้รู้สึกว่าอุณหภูมิในห้องเย็นลงได้ อีกทั้งสีอ่อนๆ อย่างสีขาวและสีครีม ก็สามารถสะท้อนแสงได้ดี

เป็นการช่วยประหยัดการใช้ไฟฟ้าเพื่อส่องแสงสว่างให้น้อยลง ในขณะที่สีเอิร์ธโทน อย่างสีน้ำตาลอ่อน สีของไม้ และใบไม้นั้น จะให้ความรู้สึกสบาย และผ่อนคลาย เหมือนได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติตลอดเวลา 

2. ปลูกต้นไม้
ต้นไม้ช่วยลดความร้อนและเพิ่มออกซิเจนในอากาศ ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น แต่งบ้าน เทียบได้กับการมีเครื่องปรับอากาศขนาด 1 ตัน เลยทีเดียว (เท่ากับ 12,000 BTU) ดังนั้น หากปลูกต้นไม้ไว้รอบๆ บ้าน ก็จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มแอร์ธรรมชาติได้ดีทีเดียว

3. ถอดปลั๊กไฟเมื่อไม่ใช้งาน
เป็นวิธีง่ายๆ ที่หลายๆ คนมองข้าม เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดจะมีการผลิตความร้อนออกมาเมื่อถูกใช้งาน หากเราเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายๆ อย่างพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ ตู้เย็น โทรทัศน์ และกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า จะเป็นการเพิ่มการระบายความร้อนออกมาให้มากขึ้น ฉะนั้นถ้าไม่ใช้งาน ควรถอดปลั๊กออกให้หมดดีที่สุด

4. ไม่ควรวางสิ่งของใกล้เครื่องปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศจะต้องทำงานหนักมากขึ้น เมื่อในห้องมีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการระบายความร้อนสูงวางอยู่ใกล้ๆ อย่างเช่นตู้เย็น เตารีด หรือโคมไฟทังเสตน ไม่เพียงแค่นั้น การเพิ่มความชื้นในอากาศก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักด้วยเช่นกัน ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการวางภาชนะใส่น้ำหรือการตากผ้าไว้ใกล้ๆ เครื่อง

5. แสงไฟและแสงธรรมชาติ
สำหรับห้องที่ออกแบบเพื่อเน้นความโปร่ง โล่งในเวลากลางวัน แต่พอถึงเวลากลางคืน กลับดูไม่สว่างเท่าที่ควร ทั้งๆ ที่ก็ติดไฟแขวนบนฝ้าเพดานตั้งเยอะ นั่นเป็นเพราะหลอดไฟแบบแขวนบนฝ้าเพดานอาจอยู่สูงเกินไป ทำให้แสงส่องลงมาไม่ถึงพื้น วิธีแก้ไข ควรเลือกใช้โคมไฟตั้งพื้นหรือตั้งโต๊ะเข้ามาช่วยเพิ่มความสว่าง

นอกจากนี้ อาจใช้วิธีดึงแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้าน ด้วยการนำแผ่นโปร่งแสงมามุงหลังคาในส่วนที่ต้องการแสงในเวลากลางวัน เพื่อลดการใช้ไฟฟ้า แต่ควรระวังไม่นำไปใช้ในพื้นที่ที่โดนแดดโดยตรงเป็นเวลานาน เพราะจะกลายเป็นการสะสมความร้อนให้กับบ้านไปโดยปริยาย HOME

6. อย่าบังทางลม
ด้วยธรรมชาติของลม จะพัดเข้า บ้าน เมื่อมีทางให้ลมออกเท่านั้น ดังนั้น การวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ในบ้าน หากไปบังทิศทางลม ก็จะทำให้ลมไม่สามารถพัดเข้ามาได้ ดังนั้น ควรจัดวางให้อยู่ชิดติดผนัง และไม่ขวางทางประตูหน้าต่าง นอกจากจะเป็นการเปิดทางให้ลมเย็นๆ พัดเข้าออกแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ในห้องให้ดูกว้างขึ้นด้วย 

7. หลังคาสีเขียว
บ้าน ที่มีดาดฟ้าจะสะสมความร้อนไว้มากกว่าบ้านที่ไม่มี ดังนั้น การทำสวนบนดาดฟ้า (Roof Garden) จะช่วยลดความร้อนสะสมได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งตอนนี้ มีเทคโนโลยีที่ทำให้การสร้าง roof garden เป็นไปได้ง่ายขึ้น ด้วยการใช้วัสดุที่เบาลง และยังดูแลรักษาง่าย ทำให้การเพิ่มพื้นที่สีเขียวของคุณ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 

8. ทำกันสาดบังแดดทางหน้าต่าง
เพราะอุณหภูมิจากแดดที่เข้ามาภายในอาคารนั้น 65% มาจากทางหน้าต่างทางทิศใต้ และ 77% มาจากหน้าต่างทางทิศตะวันตก ผ้าใบสามารถช่วยให้เราประหยัดพลังงานได้ถึง 26% ในช่วงที่อากาศร้อน 

9. ปลูกเถาไม้เลื้อย
ถ้าต้นไม้รอบบ้านยังไม่ช่วยให้เย็นพอปลูกเถาไม้เลื้อยคลุมบ้านซะเลย แต่แนะนำให้ทำรั้วระแนงรอบๆ บ้านแล้วให้ไม้เลื้อยจะแทนการให้มันเกาะผนังปูนเพราะจะทำให้ผนังเสียหายจากความชื้นและรากต้นไม้ได้