แบบบ้านหน้าแคบ

แบบบ้านหน้าแคบ

แบบบ้านหน้าแคบ

แบบบ้านหน้าแคบ 1

แบบบ้านหน้าแคบ ที่ดินนั้นมีหลากหลายลักษณะขึ้นอยู่กับว่า เจ้าของที่ดินได้จัดสรรไว้อย่างไร สำหรับที่ดินในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะที่ดินภายในตัวเมืองซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง หรือแม้แต่ในโซนนอกเมืองก็ยังมีที่ดินที่ถูกจัดสรรค์มาเป็นหน้าแคบ แต่ลึก การแบ่งลักษณะดังกล่าวจะช่วยให้สามารถแบ่งขายได้หลายแปลง และใช้ประโยชน์ในการสร้างบ้านได้หลายหลัง

ปัจจุบันเราจึงเห็นบ้านลักษณะทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยวที่สร้างบนที่ดินหน้าแคบเป็นจำนวนมาก บ้านลักษณะหน้าแคบแต่ลึกจะเป็นบ้านที่ถูกปิดทึบด้วยผนังทั้ง 2 ด้าน ส่งผลให้การใช้ชีวิตภายในบ้านรู้สึกอึดอัด คับแคบ จำเป็นต้องเปิดไฟตลอดทั้งวัน และยากที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติ วันนี้บ้านดี รับสร้างบ้านของเราจึงมีไอเดีย การสร้างบ้านอย่างไรบนที่ดินหน้าแคบ ให้ลงตัว และไม่อึดอัด ให้ทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้กันค่ะ

ยกสวนหน้าบ้านมาไว้ในบ้าน เพิ่มพื้นที่ เพิ่มความเป็นส่วนตัว

สำหรับที่ดินหน้าแคบ หากต้องเว้นพื้นที่ไว้เพื่อการจัดสวน จะเหลือพื้นที่ให้สร้างบ้านลดน้อยลงมาก การออกแบบสวนไว้ในบ้าน เป็นอีกแนวทางที่สามารถเติมเต็มธรรมชาติมาไว้ภายในบ้านได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ปลอดภัย และบ้านยังได้รับแสงสว่างแม้ผนังบ้านจะปิดทึบก็ตาม แบบบ้านชั้นเดียวโมเดิร์น

สิ่งที่ต้องระมัดระวังในการจัดสวนภายในบ้าน คือการเลือกพันธุ์ไม้ที่ใบร่วงน้อย กินน้ำน้อย และต้องมั่นใจได้ว่า เราสามารถดูแลสิ่งเหล่านี้ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นภาระในการดูแลบ้านค่ะ หรือหากที่ดินของใคร มีลักษณะแคบ แต่ลึก การทำสวนส่วนตัวไว้หลังบ้าน นับเป็นอีกไอเดียที่เหมาะสำหรับบ้านหน้าแคบเลยค่ะ

เพิ่มช่องแสงจากหลังคาเปิดรับแสงธรรมชาติ เพิ่มแสงสว่างให้ตัวบ้าน

การรับแสงสว่างในการออกแบบบ้านทั่วไป นิยมรับผ่านทางช่องแสงผนังกระจก ช่องหน้าต่าง จนอาจลืมไปว่า ด้านบนหรือหลังคาบ้านก็สามารถรับแสงสว่างได้ การทำหลังคากระจก ในตำแหน่งที่ต้องการแสง จึงสามารถเปลี่ยนบ้านหน้าแคบของเราให้ดูโปร่งกว้างได้มากยิ่งขึ้น เปลี่ยน บ้านเก่า เป็น บ้านใหม่

เทคนิคนี้นิยมนำมาใช้ร่วมกับ โถงบันได ทางเดิน หรือแม้แต่ภายในห้องนอนก็สามารถใช้เทคนิคเหล่านี้ได้เช่นกัน จุดที่ต้องระวังเป็นอย่างมากสำหรับการทำหลังคากระจกรับแสง จำเป็นต้องเลือกกระจกที่สามารถป้องกันแสง UV และกันความร้อนได้ เพื่อให้บ้านได้รับแสงสว่าง แต่ไม่นำพาความร้อนมาสู่ตัวบ้านนั้นเองค่ะ

เพิ่มพื้นที่โปร่งที่มาพร้อมความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย

สำหรับพื้นที่บางส่วนที่สามารถเว้นระยะร่นได้ เช่น หน้าบ้าน หลังบ้าน การออกแบบให้โปร่ง รับแสงตลอดทั้งวัน จำเป็นต้องออกแบบด้วยวัสดุกระจก แต่นั่นทำให้มีข้อสังเกตุตรงที่ความเป็นส่วนตัวอาจหายไป และอาจส่งผลด้านการอยู่อาศัยที่ไม่ปลอดภัยนัก ปัญหาดังกล่าวแก้ไขได้ เพียงออกแบบภายนอกบ้านด้วยการเใช้ระแนง, บล็อกคอนกรีตที่แข็งแรงมาปิดกั้น เพิ่มความเป็นส่วนตัว และสร้างความปลอดภัยในเวลาเดียวกัน

วางผังบ้านชิดด้านใดด้านหนึ่ง เพิ่มพื้นที่ เพิ่มฟังก์ชันได้มากกว่าที่คิด

บ้านวิลล่าโดยทั่วไปนิยมวางผังบ้านไว้บริเวณกึ่งกลางที่ดิน พร้อมกับเว้นระยะร่นด้านละ 2 เมตร ตามกฎหมายกำหนด แต่สำหรับที่ดินหน้าแคบ การเว้นระยะร่นในลักษณะดังกล่าวย่อมส่งผลให้ไม่เหลือพื้นที่ก่อสร้าง การเลือกเว้นด้านใด ด้านหนึ่ง เพื่อใช้เป็นพื้นที่สวน พื้นที่โปร่ง พร้อมกับออกแบบให้พื้นที่ฝั่งตรงข้ามเป็นลักษณะผนังทึบ เพื่อสามารถเว้นระยะร่นด้านข้างเพียง 50 เซนติเมตร วิธีการนี้จะช่วยทำให้เกิดพื้นที่ว่างนอกอาคารมากขึ้น ใช้งานจริงได้ดีกว่าเดิม

การสร้างบ้านบนที่ดินหน้าแคบ ให้น่าอยู่และไม่อึดอัดเป็นเรื่องที่สามารถทำได้จริง ด้วยประสบการณ์และความเข้าใจ รวมถึงการเลือกแบบบ้านที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการสร้างบ้านบนที่ดินหน้าแคบ อย่างแบบบ้านมินิ แบบบ้านจากทางบ้านดี รับสร้างบ้านของเรานั้นเองค่ะ ที่ได้มีการออกแบบดีไซน์ของบ้าน และพัฒนาฟังก์ชัน ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับบ้านหน้าแคบได้อย่างสมบูรณ์ ดูสวยงามลงตัวพร้อมฟังก์ชันครบจัดเต็มรองรับทุกการใช้งานของคนในบ้านได้เป็นอย่างดี

แบบบ้านหน้าแคบ 2

ออกแบบบ้านหน้าแคบ

วิถีการสร้างบ้านในเขตชุมชนเมือง นิยมบ้านลักษณะหน้าแคบ แต่ลึก เนื่องด้วยราคาที่ดินในเมืองมีราคาสูงมาก การแบ่งซอยพื้นที่เล็ก ๆ จึงสามารถขายได้ง่ายกว่าที่ดินผืนใหญ่ ปัจจุบันเราจึงเห็นบ้านลักษณะทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยวที่สร้างบนที่ดินแคบ ๆ จำนวนมาก ซึ่งหากย้อนดูสถาปัตยกรรมยุคเก่าจะเห็นได้ว่า บ้านลักษณะหน้าแคบแต่ลึกจะเป็นบ้านที่ถูกปิดทึบด้วยผนังทั้ง 2 ด้าน ส่งผลให้การใช้ชีวิตภายในบ้านรู้สึกอึดอัด คับแคบ จำเป็นต้องเปิดไฟตลอดทั้งวัน และยากยิ่งที่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติ   website : assetdata.land

ปัจจุบันวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปมาก ความต้องการดื่มด่ำกับธรรมชาติ สายลม แสงแดด มีมากขึ้น ประจวบกับเทคโนโลยี นวัตกรรมวัสดุ และงานสถาปัตยกรรมได้มีการพัฒนามากขึ้น รูปแบบบ้านหน้าแคบจึงได้มีการพัฒนาฟังก์ชันใหม่ ๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับบ้านหน้าแคบได้อย่างสมบูรณ์ จะมีแนวทางใดให้ประยุกต์ใช้กันบ้าง อ่านรายละเอียดกันได้เลยครับ

ผู้เขียน : อภิสิทธิ์ สุธาประดิษฐ์
สนับสนุนโดย : Punplan

จุดสำคัญของความรู้สึกอึดอัดที่เกิดขึ้นในบ้านหน้าแคบ คือการถูกปิดทึบด้วยผนังทั้ง 2 ด้าน วิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ดีที่สุด คือการออกแบบบ้านให้สามารถรับแสงสว่างจากธรรมชาติได้ พร้อมกับออกแบบให้มีผนังเปิดโปร่ง แต่การเปิดโปร่งแบบทั่วไปนั้นทำได้ยาก เนื่องด้วย พรบ.ควบคุมอาคารได้กำหนดระยะร่นอาคาร ซึ่งหากออกแบบให้เปิดโปร่ง จะต้องเว้นระยะร่นด้านดังกล่าว 2 เมตรขึ้นไป ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ ที่แคบอยู่แล้ว ยิ่งเหลือน้อยลงยิ่งกว่าเดิม ทั้ง 5 แนวทางนี้จึงเป็นการแก้ปัญหาไปพร้อม ๆ กับการทำตามกฎหมายควบคุมอาคารครับ

1. ยอมสละพื้นที่ใช้สอยอีก 50 เซนติเมตร

ตามกฎหมายระยะร่นของไทย อนุญาตให้สามารถร่นระยะอาคารได้น้อยสุดที่ 50 เซนติเมตร โดยบริเวณดังกล่าวจะต้องออกแบบในลักษณะผนังทึบ กรณีออกแบบโปร่ง มีช่องแสง ช่องลม จำเป็นต้องร่นระยะอาคาร 2 เมตรขึ้นไป การออกแบบบ้านในที่ดินหน้าแคบส่วนใหญ่จึงออกแบบในลักษณะกล่องสี่เหลี่ยม ปิดทึบด้านข้างทั้งสองด้าน ซึ่งส่งผลให้ภายในบ้านมืด อับแสง


เมื่อวิเคราะห์จากข้อกฎหมายระยะร่นแล้ว การกำหนดระยะร่นจะอิงตามด้านขนายของขอบที่ดินในด้านนั้น ๆ แต่ไม่รวมถึงการเปิดช่องแสงในด้านตั้งฉาก ดังตัวอย่างในภาพประกอบนี้ ผังห้องที่ติดกำแพง จะต้นเว้นระยะร่นอย่างน้อย 50 เซ็นติเมตร แต่ผนังที่หันไปทางหน้าบ้านจะไม่ได้อิงจากขอบที่ดินด้านขวามือ จึงสามารถเปิดช่องแสงได้ โดยผู้ออกแบบอาจจะเว้นระยะร่นในบางส่วนเพิ่มขึ้นอีก 50 เซนติเมตร เพื่อเว้นพื้นที่ไว้สำหรับทำช่องแสง ช่องหน้าต่าง เพียงเท่านี้ก็สามารถเปิดรับแสงให้ห้องดังกล่าวได้แล้วครับ

2. สวนนอกบ้านพื้นที่ไม่พอ งั้นยกมาไว้ข้างในเลย

สำหรับที่ดินแคบ ๆ ในตัวเมือง หากต้องเว้นพื้นที่ไว้เพื่อการจัดสวน จะเหลือพื้นที่ให้สร้างบ้านลดน้อยลงมาก แต่นั่นอาจไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญนัก เพราะจุดหลักของการสร้างบ้านในเมืองที่วุ่นวาย การมีสวนหน้าบ้านนั้นแทบจะไม่ได้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว และไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ การออกแบบสวนไว้ในบ้าน หรือที่นิยมเรียกกันว่า “คอร์ทในบ้าน” เป็นอีกแนวทางที่สามารถเติมเต็มธรรมชาติมาไว้ภายในบ้านได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ปลอดภัย และบ้านยังได้รับแสงสว่างแม้ผนังบ้านจะปิดทึบก็ตาม

สิ่งที่ต้องระมัดระวังในการจัดสวนภายในบ้าน คือการเลือกพันธุ์ไม้ที่ใบร่วงน้อย กินน้ำน้อย และต้องมั่นใจได้ว่า เราสามารถดูแลสิ่งเหล่านี้ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นภาระในการดูแลบ้านครับ หรือหากที่ดินของใคร มีลักษณะแคบ แต่ลึก การทำสวนส่วนตัวไว้หลังบ้าน นับเป็นอีกไอเดียที่เหมาะสำหรับบ้านหน้าแคบเลยครับ

3. เปิดผนังติดระยะร่น งั้นเปิดหลังคาแทนซิ

การรับแสงสว่างตามความเคยชินในการออกแบบบ้านทั่วไป นิยมรับผ่านทางช่องแสงผนังกระจก ช่องหน้าต่าง จนอาจลืมไปว่า ด้านบนหรือหลังคาบ้านก็สามารถรับแสงสว่างได้ การทำหลังคา Sky Light ในตำแหน่งที่ต้องการแสง จึงสามารถเปลี่ยนบ้านหน้าแคบของเราให้ดูโปร่งกว้างได้อย่างน่าอัศจรรย์

เทคนิคนี้สถาปนิกนิยมนำมาใช้ร่วมกับ โถงบันได ทางเดิน ห้องน้ำกึ่ง Outdoor หรือแม้แต่ภายในห้องนอนก็สามารถใช้เทคนิคเหล่านี้ได้ครับ จุดที่ต้องระวังเป็นอย่างมากสำหรับการทำหลังคา Sky Light ในประเทศไทย จำเป็นต้องเลือกกระจกที่สามารถป้องกันแสง UV และกันความร้อนได้ เพื่อให้บ้านได้รับแสงสว่าง แต่ไม่นำพาความร้อนครับ

4. โปร่ง แต่ก็ยังปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

สำหรับพื้นที่บางส่วนที่สามารถเว้นระยะร่นได้ เช่น หน้าบ้าน หลังบ้าน การออกแบบให้โปร่ง รับแสงตลอดทั้งวัน จำเป็นต้องออกแบบด้วยวัสดุกระจก แต่นั่นอาจส่งผลให้ความเป็นส่วนตัวหายไป และอาจส่งผลด้านการอยู่อาศัยที่ไม่ปลอดภัยนัก แต่หากจะทำเหล็กดัดก็อาจส่งผลให้บ้านสวยกลายเป็นบ้านโบราณไปในพริบตา

ปัญหาดังกล่าวแก้ไขได้ไม่ยากครับ เพียงออกแบบเปลือกอาคารภายนอกด้วย facade ที่สวยงาม หรือเลือกใช้ระแนง, บล็อกคอนกรีตที่แข็งแรงมาปิดกั้นความเป็นส่วนตัว พร้อมกับออกแบบประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งทำหน้าที่เสมือนกระจกบานใหญ่ ในวันที่อากาศดี ๆ สามารถเปิดรับลมธรรมชาติได้อย่างผ่อนคลาย ในขณะเดียวกัน สามารถเปิดทิ้งไว้ได้ตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยครับ

5. เลือกชิดด้านใด ด้านหนึ่ง

บ้านเดี่ยวทั่วไปที่มีขนาดที่ดินประมาณ 15-20 เมตร นิยมวางผังบ้านไว้บริเวณกึ่งกลางที่ดิน พร้อมกับเว้นระยะร่นด้านละ 2 เมตร ตามกฎหมายกำหนด แต่สำหรับที่ดินหน้าแคบ การเว้นระยะร่นในลักษณะดังกล่าวย่อมส่งผลให้ไม่เหลือพื้นที่ก่อสร้าง เช่น ที่ดินขนาด 10 เมตร เมื่อเว้นระยะร่นแล้วจะเหลือพื้นที่สร้างอาคารเพียง 6 เมตรเท่านั้น การเลือกเว้นด้านใด ด้านหนึ่ง เพื่อใช้เป็นพื้นที่สวน พื้นที่โปร่ง พร้อมกับออกแบบให้พื้นที่ฝั่งตรงข้ามเป็นลักษณะผนังทึบ เพื่อสามารถเว้นระยะร่นด้านข้างเพียง 50 เซนติเมตร วิธีการนี้จะช่วยทำให้เกิดพื้นที่ว่างนอกอาคารมากขึ้น ใช้งานจริงได้ดีกว่าเดิม

ส่วนภายในด้านผนังทึบ เหมาะกับออกแบบไว้เป็นพื้นที่บันได โดยบ้านหน้าแคบจะเหมาะกับการออกแบบบันไดตรง ขึ้นลงตามแนวลึก หรือใช้สำหรับห้องน้ำ ห้องเก็บของ ยิ่งหากผนังด้านดังกล่าวอยู่ฝั่งทิศตะวันตกหรือทิศใต้ จะยิ่งเกิดประโยชน์สูงสุด เพราะจะช่วยป้องกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้ดีอีกด้วยครับ

สำหรับแนวคิดในการออกแบบบ้านหน้าแคบดังกล่าวนี้ “บ้านไอเดีย” ขอขอบคุณ สถาปนิกจาก บริษัท ปันแปลน จำกัด เป็นผู้ให้คำแนะนำแนวทางในการออกแบบ ผู้อ่านที่ต้องการสร้างบ้าน ออกแบบบ้านใหม่ตามโจทย์และงบประมาณ ออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับที่ดินของเราเอง เหมาะสมทั้งด้านทิศทางลม แสงแดด สภาพภูมิอากาศและหลักฮวงจุ้ย ให้บ้านแลดูมีเอกลักษณ์ โดดเด่นลงตัวไม่ซ้ำใคร ปรึกษาสถาปนิกปันแปลนได้เลยครับ

แบบบ้านหน้าแคบ 3